ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง?
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด โดยทั่วไป ประกันรถชั้น 1จะคุ้มครองทั้งความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี จนถึงเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดฝัน เช่น ภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ไฟไหม้ รถสูญหาย ถูกโจรกรรม ฯลฯ โดยรายละเอียดของการคุ้มครองหลักๆ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ดังนี้
1. อุบัติเหุตหรือเฉี่ยวชน - แบบไม่มีคู่กรณี
กรณีนี้อาจเกิดจากผู้ขับรถ ขับรถชนสิ่งของหรือสิ่งกีดขวางโดยอาจะเกิดจากความไม่ตั้งใจของผู้ขับรถ เช่น ขับรถชนต้นไม้ ชนเสาไฟฟ้า รั้วบ้าน กระถางต้นไม้ ครูดกับฟุตบาท หรือชนกับร้านค้า บ้านเรือนต่างๆ แบบนี้ประกันรถชั้น 1 ให้ความคุ้มครอง
ชนแล้วหนี
กรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้ เช่น มีการจอดรถอยู่หรือรถกำลังติดไฟแดง แล้วถูกเฉี่ยวชนแต่คู่กรณีชนแล้วหนี แบบนี้ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครอง หากมีหลักฐานของผู้ที่ชนแล้วหนี ก็ไม่ต้องจ่ายค่า Ecxess หรือ ค่าเสียหายส่วนแรก แต่ถ้าไม่มีหลักฐานอาจจะต้องเสียค่า Ecxess เป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน
2. อุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันระหว่างยานพาหนะทางบก
กรณีนี้เป็นการเฉี่ยวชนระหว่างรถของคันที่ทำประกันภัยและยานพาหนะ หรือ รถของบุคคลอื่นซึ่งไม่ว่าจะชนกับ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถเมล์ รถทัวร์ เป็นต้น ถ้าเป็นการเฉี่ยวชนกับยานพาหนะทางบก โดยไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือไม่ก็ตาม ประกันรถชั้น 1 ก็ให้ความคุ้มครองทั้งตัวรถและอุปกรณ์ตกแต่ง
3. ให้ความคุ้มครองแก่กระจกรถยนต์
กระจกรถยยนต์ไม่ว่าจะเป็นกระจกบานหน้า (กระจกบังลม) กระจกข้าง กระจกหน้าต่างรถ หากเกิดความเสียหาย เช่น กระจกร้าว บิ่น หรือแตก ต้องทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนกระจกรถยนต์ ประกันรถชั้น 1 ให้ความคุ้มครองในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนกระจกรถยนต์ให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติ
4. คุ้มครองความเสียหายจากเหตุไม่คาดฝัน
ความเสียหายจากเหตุไม่คาดฝัน อาทิเช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม พายุ ดินถล่ม โดยบริษัทประกันจะจ่ายชดเชยค่าเสียหายให้แต่ไม่เกินวงเงินกรมธรรม์
5. การก่อการร้าย
ความเสียหายจากภัยการก่อการร้าน เช่น การก่อจลาจล การวางเพลิง ระเบิด การใช้อาวุธ แบบนี้ประกันรถชั้น 1 ก็ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกัน
6. คุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สินบุคคลภายนอก
ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เช่น กรณีที่ผู้ขับรถ ขับรถชนทรัพย์สินของผู้อื่นเช่น บ้าน ร้านค้า สิ่งของของผู้อื่น และต้องมีการรับผิดชอบตามกฎหมาย ในกรณีนี้ประกันรถชั้น 1 จะจ่ายชดเชยค่าเสียหายให้กับเจ้าของทรัพย์สินแต่ไม่เกินวงเงินกรมธรรม์
7. ค่ารักษาพยาบาลหรือคุ้มครองชีวิตต่อผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและมีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ประกันรถชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองจ่ายค่ารักษาพยาบาลหรือคุ้มครองชีวิตให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถคันที่ทำประกันภัย รวมถึงคุ้มครองบุคคลภายนอก เช่น ค่ารักษาพยาบาล หรือคุ้มครองชีวิตของคู่กรณี) ในกรณีที่เป็นฝ่ายผิดจากอุบัติเหตุนั้นด้วย
8. บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
การบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีเกิดปัญหารถเสียกลางทาง เช่น บริการเคลื่อนย้ายรถเพื่อพาไปยังสถานที่ปลอดภัยหรืออู่ที่อยู่ใกล้เคียง บริการเติมน้ำมันฉุกเฉินถึงที่ บริการแก้ไขหรือซ่อมบำรุงรถกรณีฉุกเฉิน แบตเตอรี่หมด หรือเปลี่ยนยางอะไหล่ เป็นต้น
9. ค่าประกันตัวผู้ขับขี่ กรณีที่อุติเหตุเป็นคดีความอาญา
ประกันชั้น 1 จะมีการคุ้มครองค่าประกันตัวผู้ขับขี่ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและถูกควบคุมตัวในคดีความอาญา ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้ใช้ชีวิตตามปกติในระหว่างการสอบสวนหรือดำเนินคดี
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง?
ประกันรถชั้น 1 แม้จะเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองมากที่สุด แต่ก็มีข้อยกเว้นที่ประกันรถชั้น 1 ไม่ให้ความคุ้มครองอยู่ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์ของแต่ละบริษัทประกัน
ตัวอย่างข้อยกเว้นที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง
ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือถูกเพิกถอนใบขับขี่
เมื่อผู้ขับรถไม่มีใบขับขี่ ใบขับขี่หมดอายุหรือถูกเพิกถอน หรือใช้ใบขับขี่ผิดประเภท (เช่น ใช้ใบขับขี่รถจักร์ยานยนต์ในขณะขับรถยนต์) หากเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนขึ้นมา ประกันรถชั้น 1 จะไม่ได้ให้ความคุ้มครองแก่รถของคุณ จึงควรใส่ใจและต่ออายุใบขับขี่อย่างสม่ำเสมอ
1. ขับขี่ในขณะเมาสุราหรือยาเสพติด “เมาแล้วขับ”
หากผู้ขับขี่ขับรถขณะมึนเมาหรือมีปริมาณแอลกฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตามที่กฎหมายกำหนด หรือตรวจพบสารเสพติดในร่างกายที่มีความผิดตามกฎหมาย หากเกิดอุบัติเหตุในขณะขับรถนั้น จะไม่สามารถรับความคุ้มครองจากประกันรถชั้น 1 ได้ อีกทั้งบริษัทประกันจะเรียกค้าเสียหายจากผู้ขับขี่เพื่อนำไปชดเชยให้กับผู้เสียหายอีกด้วย
2. ใช้รถอย่างผิดกฎหมาย
หากผู้ขับรถนำรถไปใช้ในทางผิดกฎหมาย เช่น ขนยาเสพย์ติด ขนอาวุธ ขนสิ่งผิดกฎหมายหรือของเถื่อน ทำการปล้นจี้แล้วใช้รถนั้นหนีการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการแข่งขันอย่างผิดกฎหมาย หรือใช้รถที่ผิดกฎหมายอื่นๆ กรณีนี้ประกันรถชั้น 1 ก็จะไม่ให้ความคุ้มครอง หากเกิดอุบัติจะไม่สามารถใช้ความคุ้มครองหรือแจ้งเคลมประกันได้
3. ใช้รถผิดวัตถุประสงค์
การใช้รถผิดวัตุประสงค์หรือใช้รถผิดประเภทนั้น คือ การนำรถส่วนบุคคลไปใช้ในประโยชน์เชิงพาณิชย์ เช่น การนำรถส่วนบุคคลไปใช้รับส่งผู้โดยสาร ขนส่งสินค้า หรือบริการ หากเกิดอุบัติเหตุจะไม่สามารถเคลมประกันรถชั้น 1 หรือใช้ความคุ้มครองได้
4. ดัดแปลงสภาพรถ
ในกรณีที่ทำการแต่งรถหรือดัดแปลงรถโดยที่ไม่แจ้งให้บริษัทประกันได้ทราบล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็น การแต่งรถเพื่อความสวยงาม เสริมสมรรถภาพ และระบบแก๊สรถยนต์ ซึ่งโดยทั่วไปบริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงานเท่านั้น หากไม่แจ้งให้บริษัทประกันทราบก่อน บริษัทประกันอาจจะพิจารณาให้ความคุ้มครองเฉพาะอุปกรณ์มาตรฐานเท่านั้น
5. ทำให้รถเสียหายโดยเจตนา หรือทำให้เกิดอุบัติเหตุโดยตั้งใจ
ประกันรถชั้น 1 จะไม่ให้ความคุ้มครองหากเจ้าของรถ ตั้งใจทำให้เกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุไม่ว่าจะทำด้วยตัวเองหรือให้ผู้อื่นทำแทนเช่น ตั้งใจทำให้รถยนต์เสียหาย ตั้งใจให้เกิดการชน (เช่น จัดฉากทำรถชนเพื่อเคลมประกัน) หากทำแบบนี้นอกจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองแล้ว อาจจะถูกบริษัทประกันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกลับได้อีกด้วย
6. ไม่แจ้งความกรณีรถถูกจารกรรมในเวลาที่กำหนด
รถหายจากการถูกโจรกรรม โดยทั่วไปของประกันรถชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองรถครอบคลุมถึงการถูกโจรกรรมไม่ว่าจะเป็นการขโมยรถทั้งคันหรือขโมยเฉพาะชิ้นส่วนเช่น กระจกข้าง ล้อแม็กซ์ อุปกรณ์มาตรฐาน แต่จะต้องมีการแจ้งความภายในระยะเวลาที่กำหนด (โดยปกติจะภายใน 24 ชั่วโมง) และจะต้องมีการยื่นเอกสารประกอบการเคลม เช่น ใบแจ้งความ
โดยรวมแล้ว ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะคุ้มครองหลายกรณีที่อาจเกิดขึ้น แต่จะมีข้อยกเว้นในกรณีที่ผู้ขับขี่ประมาทหรือกระทำผิดกฎหมาย รวมถึงบางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
ก่อนตัดสินใจซื้อประกันจึงควรอ่านรายละเอียดของกรมธรรม์หรือสอบถามบริษัทประกันที่คุณสนใจเพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการคุ้มครองที่เหมาะสม และตรงกับความต้องการ
สรุป “ประกันรถยนต์ชั้น 1” จะคุ้มครอง เกือบทุกกรณี แต่ก็มีบางกรณีที่ ไม่คุ้มครอง ดังนี้:
กรณีที่ประกันรถชั้น 1 ไม่คุ้มครอง!
- ขับขี่ในขณะเมาสุราหรือยาเสพติด
- ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่หรือขับรถผิดกฎหมาย
- ใช้รถในการแข่งขันหรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
- เกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถในกิจกรรมธุรกิจ (เช่น ใช้รถเพื่อวัตุประสงค์เชิงพาณิชย์)
- ไม่ทำการการบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมรถที่เสื่อมสภาพตามข้อกำหนด
- ทำลายรถหรือทำให้เสียหายโดยเจตนา (ทั้งทำลายเองหรือให้คนอื่นทำ)
- ขับรถในพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ตามปกติ
- ไม่แจ้งความตามเวลาที่กำหนดใรกรณีที่รถถูกโจรกรรม
- การดัดแปลงรถยนต์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
- ไม่ตรวจสภาพรถตามระยะเวลาที่กำหนด
ประกันรถยนต์ชั้น 1 โดยปกติจะมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมหลายกรณี แต่ถ้าทำผิดกฎหมายหรือไม่ดูแลรถอย่างเหมาะสม หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ก็อาจจะทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองได้
